อ้อยและปัญหาฝุ่น PM 2.5
อ้อยและปัญหาฝุ่น PM 2.5
การลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อย:
เป้าหมายปี 2563/64 น่าจะเป็นไปได้
การเผาไร่อ้อยเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นจากการเผาในภาคเกษตร คณะรัฐมนตรีจึงกำหนดสัดส่วนเป้าหมายให้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศรับซื้ออ้อยไฟไหม้ได้ไม่เกิน 50% ในปีการผลิตที่ผ่านมา และไม่เกิน 30% ในปีการผลิต 2563/64 นี้
บรรลุเป้าหมายในปีการผลิตที่ผ่านมา : ในปีการผลิต 2562/2563 ผลผลิตอ้อยทั่วประเทศลดลงมากกว่า 40% (เมื่อเทียบกับปี 2561/62) โดยมีปริมาณอ้อยสดใกล้เคียงกับอ้อยไฟไหม้ที่ประมาณ 37 ล้านตัน มีส่วนทำให้ในภาพรวมสามารถบรรลุเป้าหมาย โดยมีอ้อยไฟไหม้ไม่ถึง 50% แต่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศยังพบปัญหาหมอกควันและฝุ่นจากการเผาอ้อยที่เกิดจากการเผาหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกอ้อยรุ่นใหม่ หรือ เป็นการชิงเผาเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ทำลายต้นอ้อยที่กำลังงอกจากตอเดิม ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างปัญหาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนเท่านั้น ยังส่งผลเสียต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินอีกด้วย จึงควรที่จะวางนโยบายเพื่อป้องกันการเผาอย่างยั่งยืน เช่น
🔺การสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรการเกษตรที่เหมาะสม เป็นต้น
คาดการณ์สำหรับปีการผลิตต่อไป : ด้วยในช่วงสามปีการผลิตที่ผ่านมา เกษตรกรสามารถตัดอ้อยสดส่งโรงงานได้มากที่สุดถึง 51 ล้านตันต่อปี(โดยเปิดโรงงานหีบอ้อยนานถึงต้นเดือนพฤษภาคม) ดังนั้น จากข้อมูลศักยภาพของการตัดอ้อยสดในปีที่ผ่าน ๆ มา ร่วมกับจำนวนรถตัดอ้อยที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการสนับสนุนโดยภาครัฐ และการปรับวิธีการบริหารจัดการระบบ logistics ที่ดีและเหมาะสม น่าจะทำให้ในภาพรวมสามารถบรรลุเป้าหมายโดยมีอ้อยไฟไหม้ไม่ถึง 30% และช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้
ในปีการผลิต 2562/63 ภาคตะวันออกมีสัดส่วนของอ้อยไฟไหม้ถึง 63% ในขณะที่ภาคเหนือมีเพียง 46%
(ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2563 http://www.ocsb.go.th/)
ปริมาณอ้อยสดส่งโรงงานใน 3 ปีการผลิตที่ผ่านมา แสดงถึงศักยภาพในการตัดอ้อยสดส่งโรงงานได้มากประมาณ 51 ล้านตันต่อปี
(ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2563 http://www.ocsb.go.th/)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น