ธนาคารเห็ดเผาะ

ปัจจุบันเห็ดป่าเป็นอาหารพื้นบ้านและสินค้าพื้นบ้านที่มีราคาสูง ตกกิโลกรัมละ 300 ถึง 350 บาท ถ้าซื้อโดยตรงจากชาวบ้านที่ไปเก็บ และราคาถึงกิโลกรัมละ 500 ถึง 800 บาท หากนำมาทำเป็นอาหาร และผลิตภัณฑ์พร้อมบริโภคในรูปแบบต่างๆ แล้ว 

ในทุกๆ ปีชาวบ้านจะมีการรวมตัวกันออกไปเก็บเห็ดป่าในช่วงต้นฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ท่านอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้? 

   ด้วยความเชื่อดั้งเดิมของชาวบ้านที่ว่าการเผาพื้นป่าในช่วงหน้าแล้งจะทำให้มีปริมาณเห็ดป่าขึ้นมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในช่วงหน้าแล้งชาวบ้านจึงจุดไฟเผาพื้นป่าซึ่งจะลุกลามต่อไปเป็นไฟป่าที่ก่อให้เกิด ความเสียหายต่อผืนป่า รวมทั้งมลภาวะและฝุ่นควันขนาดเล็ก ปริมาณมาก และยังเป็นการทำลายระบบนิเวศน์และสภาพแวดล้อมภายในป่า  

   ดังนั้นเราจึงเข้าไปให้ความรู้แก่ชาวบ้านถึงธรรมชาติของเห็ตเหล่านี้ ว่าที่จริงแล้วเป็นเห็ดราที่อาศัยอยู่กับรากพืช ที่เรียกว่า ไมคอร์ไรซา ซึ่งจะอยู่อาศัยกับรากพืชบริเวณผิวดิน ถ้าผิวดินถูกความร้อนหรือเผาไปมากๆ บ่อยๆ  เชื้อรา ที่ให้ดอกเห็ดเหล่านี้ก็จะลดปริมาณลง จนหายไปในที่สุด ดังจะเห็นว่าในป่าที่มีการเผาบ่อยครั้งจะเริ่มมีเห็ดขึ้นน้อยลง และหายไปในที่สุด อย่างไรก็ดีเราสามารถทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ขึ้นได้โดยการหยุดเผาป่า และนำเอาสปอร์ของเห็ด เหล่านี้กลับเข้าไปเติมในพื้นป่าได้ เพื่อช่วธรรมชาติให้กลับฟื้นตัว ได้เร็วขึ้น 

เมื่อเราได้ให้ความรู้ประชาชนแล้ว ลำดับต่อไปก็คือ การนำเอาเชื้อเห็ดและสปอร์เห็ดป่า กลับไปเติมลงในพื้นในป่า จึงได้เกิด “ธนาคารเห็ด” ขึ้น โดยให้ประชาชนที่ออกมาเก็บเห็ดในช่วงนี้ เอาเห็ดที่แก่ๆ ที่ใช้ บริโภคไม่อร่อยแล้ว มาเก็บ รวบรวมไว้ที่ธนาคารเห็ด เพื่อจะได้นำเอาสปอร์จากดอกเห็ด เหล่านี้กลับไปใส่คืนผืนป่าต่อไป