🎋 ความคุ้มค่าของรถตัดอ้อยแทนการเผา 🎋

🎋 ความคุ้มค่าของรถตัดอ้อยแทนการเผา 🎋

 

      การเผาไร่อ้อยก่อนเก็บเกี่ยวเป็นต้นเหตุหลักของปัญหาหมอกควันและฝุ่นจากการเผาในภาคเกษตร ซึ่งก่อให้เกิด PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคนไทย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จึงใช้หลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ โดยจูงใจชาวไร่ให้ส่งอ้อยสดเข้าโรงงาน

    เงินค่าอ้อยสด: ในปีการผลิต 2562/63 นี้ ชาวไร่ที่เผาใบอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยวจะถูกหักค่าอ้อยไฟไหม้ ตันละ 30 บาท เพื่อนำไปเฉลี่ยจ่ายให้กับอ้อยสดทุก ๆ ตันที่ส่งเข้าโรงงานเดียวกัน ดังนั้น ชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยสดเข้าโรงงานที่มีเปอร์เซ็นต์อ้อยสดน้อย (มีอ้อยไฟไหม้มาก) จะได้เงินค่าอ้อยสดมาก เช่น โรงงานสุพรรณบุรีมีอ้อยสดเพียง 21.3% ดังนั้นชาวไร่จะได้รับเงินค่าอ้อยสดมากถึง 110 บาทต่อตัน 

ในขณะที่โรงงานราชบุรี มีอ้อยสดมากถึง 93% ทำให้ชาวไร่ได้รับเงินค่าอ้อยสดเพียง 2.21 บาทต่อตัน ดังนั้น ความคุ้มค่าของการใช้รถตัดอ้อยแทนการเผาในส่วนของเงินค่าอ้อยสดจึงแตกต่างกันไปขึ้นกับแต่ละโรงงาน 

    ทั้งนี้ ในปีการผลิต 2562/63 เลขาธิการ สอน. ได้เตรียมเสนอดำเนินการกำหนดราคาส่วนต่างให้ราคาอ้อยสดมากกว่าอ้อยไฟไหม้ตันละประมาณ 200 บาท เพื่อให้มีความคุ้มค่ามากพอและเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดมากขึ้น

    เงินช่วยอ้อยสด: แหล่งเงิน 3,500 ล้านบาทสำหรับปีการผลิต 2562/63 มาจากงบประมาณของ สอน. ตามมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยจัดสรรแบ่งในอัตรา 92.81 บาทต่อตัน (3,500 ล้านบาทแบ่งให้ 37 ) ให้ชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดทุกตันอ้อย

    เงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต: ปีการผลิต 2562/63 มีจำนวน 6,500 ล้านบาท โดยกำหนดการช่วยเหลือในอัตราตันอ้อยละไม่เกิน 85 บาท รายละไม่เกิน 5,000 ตันอ้อย เพื่อนำไปใช้จัดหาปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และปัญหาของตนเองได้ ดังนั้น ในปัจจุบันเงินช่วยเหลือในส่วนนี้จึงยังไม่ใช่แรงจูงใจให้ใช้รถตัดอ้อยแทนการเผา (ทั้งนี้ มีแนวคิดที่จะกำหนดนโยบายให้เฉพาะเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดเท่านั้นที่จะได้รับจัดสรรเงินช่วยเหลือจากภาครัฐได้ในอนาคต)

    การไม่เผาไร่อ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว ยังเปิดโอกาสให้ชาวไร่สามารถนำใบอ้อยที่เหลือในแปลง ส่งขายกับโรงงานน้ำตาลเพื่อนำไปผสมกับชานอ้อยและนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยขณะนี้มีอย่างน้อย 8 โรงงานที่รับซื้อตันละ 50 บาท ช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้ชาวไร่

นอกจากนี้ ยังมีความคุ้มค่าของการใช้รถตัดอ้อยแทนการเผาที่ยากจะประเมินเทียบเป็นจำนวนเงินได้ เช่น 

🔺 การลดปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 

🔺 การลดลงของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศ (เฉลี่ยประมาณ 4 ตันต่อไร่) ซึ่งอาจเทียบเป็นมูลค่ามากถึง 2,800 บาทต่อไร่ (ที่ราคาประมาณ 20 ยูโรต่อตัน)