ความตกลงอาเซียนว่าด้วยหมอกควันพิษข้ามพรมแดน ตอนที่ 2
ความตกลงอาเซียนว่าด้วยหมอกควันพิษข้ามพรมแดน ค.ศ. 2002 (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution): ตอนที่ 2 หน้าที่พื้นฐานของรัฐในการจัดการหมอกควันพิษข้ามพรมแดน
จากตอนที่แล้วที่เราได้ทราบถึงหลักการพื้นฐานของความตกลง ความตกลงอาเซียนว่าด้วยหมอกควันพิษข้ามพรมแดน ค.ศ. 2002 (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution, 2002) ไปแล้ว วันนี้เราจะพูดถึง พันธกรณีตามความตกลงดังกล่าวที่รัฐสมาชิกประชาคมอาเซียนต้องนำไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของความตกลงฯ และเพื่อให้หน้าที่ของแต่ละรัฐในการปฏิบัติตามพันธกรณีตามความตกลงดังกล่าวสำเร็จลุล่วงและครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย ซึ่งพันธกรณีที่สำคัญซึ่งรัฐสมาชิกประชาคมอาเซียนต้องนำไปปฏิบัติ สามารถพิจารณาได้ดังต่อไปนี้
💠 ประการแรก ความตกลงฯ กำหนดหน้าที่พื้นฐานทั่วไป (general obligations) ให้ทุกรัฐสมาชิกประชาคมอาเซียนต้องนำไปปฏิบัติอยู่ 3 กรณีหลัก ๆ กล่าวคือ
🔸 ประการแรก รัฐต้องร่วมกันพัฒนาและใช้บังคับมาตรการเพื่อการป้องกันและติดตามตรวจสอบหมอกควันพิษข้ามพรมแดน อันเนื่องมาจาการเผาในที่ดินและ/หรือไฟป่า ซึ่งควรได้รับการแก้ไขและควบคุมที่ต้นกำเนิดของไฟ รวมไปถึงการระบุบ่งชี้ตำแหน่งของไฟ นอกจากนี้รัฐจะต้องพัฒนาระบบการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และการแจ้งเตือนล่วงหน้า การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นอีกด้วย
🔸 ประการที่สอง นอกเหนือไปจากการร่วมการพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบและระบบอื่น ๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว ในกรณีที่หมอกควันพิษข้ามพรมแดนมีต้นกำเนิดมาจากรัฐของตน รัฐสมาชิกประชาคมอาเซียนนั้นๆ จะต้องสนองต่อคำร้องขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือการขอปรึกษาหารือจากรัฐสมาชิกอื่นๆ หรือรัฐอื่นที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบจากหมอกควันพิษข้ามพรมแดนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดผลกระทบอย่างร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจากหมอกควันพิษข้ามพรมแดน
🔸 ประการสุดท้าย เพื่อการหน้าที่ดังกล่าวมาในข้างต้นสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม รัฐสมาชิกประชาคมอาศัยต้องจัดให้มีมาตรการทางกฎหมาย ทางปกครอง หรือมาตรการที่จำเป็นอื่นใดเพื่อใช้บังคับและปฏิบัติตามพันธกรณีตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยหมอกควันพิษข้ามพรมแดนด้วย
นอกเหนือไปจากหน้าที่พื้นฐานทั่วไปแล้ว ยังมีหน้าที่เฉพาะบางประการที่รัฐสมาชิกอาศัย รวมถึงประเทศไทยต้องนำมาปฏิบัติภายในประเทศของตนเองเพื่อให้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของความตกลงฯ โดยหน้าที่เฉพาะดังกล่าวมีความสำคัญต่อการป้องกันการเกิดขึ้นของหมอกควันพิษข้ามพรมแดน เราสามารถพิจารณาหน้าที่ดังกล่าวได้ดังนี้
💠 หน้าที่ในการเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบ ความตกลงฯกำหนดให้รัฐต้องดูแลพื้นที่ของตนเอง ซึ่งวิธีการดูแลดังกล่าวคือการจัดให้มีมาตรการเพื่อเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดหมอกควันพิษข้ามพรมแดน คือ
🔹 1) พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟทั้งหมด
🔹 2) ไฟที่เกิดจากการเผาในที่ดินและหรือไฟป่า
🔹 3) ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเกิดไฟทั้งไฟที่เกิดจากการเผาในที่ดินและหรือไฟป่า
🔹 4) หมอกควันพิษที่เกิดจากไฟที่เกิดจากการเผาในที่ดินและหรือไฟป่า
นอกจากนี้เพื่อให้การเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบสามารถกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐจะต้องตั้งศูนย์เฝ้าระวังระดับชาติเพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวังติดตามตรวจสอบไฟและหมอกควันดังกล่าวด้วย ซึ่งในประเทศไทย งานด้านการเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดหมอกควันพิษข้ามพรมแดนอยู่ในภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ในกรณีที่มีไฟเกิดขึ้นและอาจก่อให้เกิดหมอกควันพิษข้ามพรมแดน รัฐสมาชิกประชาคมอาเซียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐที่เป็นต้นกำเนิดของหมอกควันพิษต้องจัดให้มีมาตรการควบคุมหรือดับไฟโดยทันทีด้วย
ในตอนต่อไป เราจะพูดถึงหน้าที่สำคัญๆ ประการอื่นที่ประเทศไทยต้องดำเนินการภายในประเทศไทยเพื่อป้องกันหมอกควันพิษข้ามพรมแดนตามที่กำหนดไว้ในความตกลงอาเซียนว่าด้วยหมอกควันพิษข้ามพรมแดน และความท้าทายในการปฏิบัติความตกลงฉบับนี้ รวมถึงสาเหตุว่าทำไมหมอกควันพิษข้ามพรมแดนจึงไม่ใช่เรื่องที่จะใช้กฎหมายเข้าจัดการได้แต่เพียงอย่างใด โปรดติดตามตอนต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น